แมวเปอร์เซีย (Persian Cat) เป็นหนึ่งในสายพันธุ์แมวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก ด้วยลักษณะที่โดดเด่นของใบหน้าที่แบนและขนที่ยาวฟู พวกมันถูกเลี้ยงเพื่อความสวยงามและมีคุณสมบัติพิเศษหลายอย่างที่ทำให้เป็นที่ต้องการของผู้ที่รักแมวทั่วโลก แมวเปอร์เซียมีประวัติยาวนานและเป็นที่รู้จักในด้านความสงบเงียบและลักษณะนิสัยที่อ่อนโยน
ประวัติและแหล่งกำเนิด
แมวเปอร์เซียมีต้นกำเนิดจากประเทศเปอร์เซีย (Iran ในปัจจุบัน) ชื่อของมันก็บ่งบอกถึงแหล่งกำเนิดที่มาจากภูมิภาคนี้ ในศตวรรษที่ 17 นักเดินทางชาวอิตาลีชื่อ Pietro della Valle ได้นำแมวที่มีลักษณะขนยาวและนุ่มนวลกลับมายังยุโรป จากนั้นแมวเปอร์เซียก็เริ่มแพร่หลายไปทั่วยุโรปและกลายเป็นที่นิยมในราชสำนักอังกฤษในยุควิคตอเรีย
ลักษณะทางกายภาพ
แมวเปอร์เซียมีลักษณะทางกายภาพที่โดดเด่นมาก ขนของพวกมันยาว นุ่ม และมีความหนาแน่น ซึ่งต้องการการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี หน้าของแมวเปอร์เซียมีลักษณะเป็นรูปทรงแบนหรือหน้าแป้น ทำให้มันมีหน้าตาที่น่ารักไม่เหมือนใคร ตาโตกลมโตที่มีสีสดใส ขนาดตาสามารถมีสีหลายสี เช่น สีฟ้า สีเขียว หรือสีส้ม นอกจากนี้ ขาของมันยังสั้นและแข็งแรง ทำให้มันดูค่อนข้างหนาและมีความมั่นคงในการเดิน
น้ำหนักเฉลี่ยของแมวเปอร์เซียอยู่ที่ประมาณ 3.5 ถึง 7 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับเพศและอาหาร แมวตัวเมียมักมีขนาดเล็กกว่าแมวตัวผู้เล็กน้อย ร่างกายของพวกมันมักจะมีลักษณะกลมและสมส่วน ส่วนหางของแมวเปอร์เซียมักจะสั้นและมีขนฟูฟ่อง
ลักษณะนิสัย
แมวเปอร์เซียเป็นแมวที่มีนิสัยสงบและชอบความเงียบสงบ มันไม่ชอบการเคลื่อนไหวหรือเสียงดังมากนัก แมวเปอร์เซียมักจะชอบอยู่ในบ้านและไม่ชอบออกไปนอกบ้านเท่าไหร่ พวกมันไม่ค่อยกระตือรือร้นเท่าแมวพันธุ์อื่น แต่มีความชอบในการพักผ่อนและการนอนหลับ
แมวเปอร์เซียมักจะมีนิสัยที่น่ารักและเข้ากับคนง่าย แม้ว่ามันอาจจะไม่ชอบการถูกรบกวนมากเกินไป มันยังเป็นแมวที่มีความขี้อ้อนและมักจะต้องการความสนใจจากเจ้าของของมัน แต่ในขณะเดียวกัน มันก็ยังเป็นแมวที่อิสระและสามารถอยู่ตัวเดียวได้อย่างสบายใจ
การดูแลรักษา
แมวเปอร์เซียต้องการการดูแลขนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากขนของมันยาวและหนามาก จึงมีแนวโน้มที่จะพันกันได้ง่าย เจ้าของควรแปรงขนให้แมวเปอร์เซียอย่างน้อยวันละครั้ง เพื่อป้องกันการเกิดขนพันกัน และเพื่อรักษาความสะอาดและความงามของขน นอกจากนี้ การอาบน้ำก็เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะหากแมวเปอร์เซียออกไปเล่นนอกบ้านหรือมีความสกปรก
นอกจากนี้ แมวเปอร์เซียยังมีความไวต่อการเจ็บป่วยทางระบบทางเดินหายใจเนื่องจากลักษณะใบหน้าที่แบน มันอาจจะมีปัญหาในการหายใจหรือเป็นหวัดได้ง่าย เจ้าของควรใส่ใจสุขภาพของแมวเปอร์เซียอย่างใกล้ชิด และควรพามันไปพบสัตวแพทย์เป็นประจำเพื่อตรวจสุขภาพทั่วไป
แมวเปอร์เซียยังมีปัญหาเกี่ยวกับตาเนื่องจากดวงตาที่โตกว่าปกติ น้ำตาของมันอาจไหลมากกว่าสายพันธุ์อื่น จึงจำเป็นต้องเช็ดรอบๆ ดวงตาเป็นประจำเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดการติดเชื้อ
การให้อาหาร
แมวเปอร์เซียควรได้รับอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการที่เหมาะสม อาหารควรมีโปรตีนสูงและมีสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตและการดูแลสุขภาพของขน เจ้าของควรระวังไม่ให้อาหารที่มีไขมันมากเกินไปเพราะอาจทำให้แมวมีน้ำหนักตัวเกิน และทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้
พฤติกรรมการเล่น
แม้ว่าแมวเปอร์เซียจะไม่ใช่แมวที่ชอบเล่นมากนัก แต่มันก็ยังคงมีความชอบในการเล่นของเล่นหรือการเล่นกับเจ้าของบ้าง ของเล่นที่เหมาะสมสำหรับแมวเปอร์เซียอาจเป็นของเล่นที่มีลักษณะเบาๆ เช่น ลูกบอลนุ่มๆ หรือของเล่นที่ใช้ในการกระตุ้นการเล่นแบบเบาๆ
เนื่องจากมันเป็นแมวที่ไม่ค่อยกระตือรือร้น เจ้าของควรสร้างสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบและสบาย เพื่อให้แมวเปอร์เซียสามารถพักผ่อนได้ตามที่มันต้องการ
ความสัมพันธ์กับสัตว์อื่นและคน
แมวเปอร์เซียสามารถปรับตัวได้ดีเมื่ออยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆ ในบ้าน เช่น สุนัขหรือแมวตัวอื่นๆ มันมีลักษณะนิสัยที่ไม่ก้าวร้าวและสามารถอยู่ร่วมกับสัตว์อื่นได้โดยไม่มีปัญหา แต่มันอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวเมื่ออยู่กับสัตว์ที่มีกิจกรรมมากกว่าหรือมีความตื่นตัวมากกว่า
ในด้านความสัมพันธ์กับคน แมวเปอร์เซียมักจะเป็นมิตรกับทุกคนในบ้าน และสามารถอยู่ร่วมกับเด็กได้อย่างดี แต่มันไม่ชอบการถูกรบกวนมากนัก หากมีเด็กเล็ก เจ้าของควรสอนเด็กให้รู้จักการปฏิบัติตัวกับแมวอย่างถูกต้อง